



มารู้จักนักบุญองค์ใหม่ “ซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี”
นักบวชธรรมทูตคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ (ซิสเตอร์ซาเลเซียนของคุณพ่อบอสโก)
ความโดดเด่นในชีวิตของเธอ คือ การเป็นธรรมทูตที่แสดงออกถึงความเป็นมารดา เป็นนักการทูตแห่งสันติภาพและการปรองดอง
ซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี จะได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 เป็นนักบุญ
องค์ที่สองของคณะต่อจากนักบุญมาเรีย โดเมนิกา มัซซาแรลโล ผู้ร่วมตั้งคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์
«ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย» (ยอห์น 15:13)
ในยุคของสังคมที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ยังมีบุคคลที่สามารถเป็นพยานว่าพระเจ้ามีอยู่และทรงรักมนุษย์อย่างมาก ชีวิตของซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี
เป็นพยานได้ว่าพระเจ้าทรงดูแลและเอาใจใส่มนุษย์ทุกคน โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ชนชาติหรือผิวพรรณ เพราะทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า
ซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี เกิดที่แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1883 สมัครเป็นธรรมทูตทำงานในป่าอะเมซอนที่ประเทศเอกวาดอร์ ท่านอุทิศตนเป็นพยาบาล เพื่อดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชนเผ่าชูวาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีและเด็ก «ช่วงปลายทศวรรษ 1960 ความตึงเครียดระหว่างชนสองเผ่าพันธุ์ [ผู้อพยพชาวอาณานิคมและชาวป่าชูวาร์] ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากปัญหาการครอบครองที่ดิน บรรยากาศแห่งความเป็นศัตรูได้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อผู้อพยพบางกลุ่มได้จุดไฟเผากิจการของคุณพ่อซาเลเซียนในวันที่ 4 กรกฎาคม 1969 เพราะเห็นว่า
คุณพ่อเข้าข้างชาวชูวาร์ และส่งเสริมศักดิ์ศรีของพวกเขา ซิสเตอร์มาเรียเป็นทุกข์ใจอย่างยิ่ง เพราะเธอกลัวว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโดยแท้ ช่วงเวลานั้นเองที่เธอได้รับแรงบันดาลใจ ซึ่งเกิดจากหัวใจการเป็นมารดาของเธอ ที่จะถวายตัวเองแด่พระเจ้าให้เป็นเหยื่อแห่งการปรองดองระหว่างสองชนชาติที่เธอรักอย่างที่สุด เธอไม่พบทางเลือกอื่นใดที่จะทำให้เธอเป็นเหมือนพระเยซูเจ้าได้มากไปกว่านี้: «ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย» (ยอห์น 15:13) ด้วยพลังแห่งการโน้มน้าวใจและความดีงาม ซิสเตอร์มาเรียสามารถหยุดการแก้แค้นที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และได้รับการรับฟังในฐานะผู้นำข่าวสารแห่งสันติภาพและการให้อภัย» (จดหมายเวียนที่ 1046)
การมอบถวายชีวิตเพื่อสันติภาพและการปรองดอง
«ความต้องการที่จะมอบถวายชีวิตของซิสเตอร์มาเรียสำหรับเธอถือเป็นหน้าที่ธรรมดาเหมือนกับหน้าที่อื่น ๆ เธอตระหนักดีว่า นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าขอจากเธอ เหมือนกับการขอสิ่งอื่นๆ เราทราบดีว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ "สง่างาม"; เพียงแต่เธอไม่สามารถทนกับความคิดที่จะให้มีเหยื่อมากมายกองกันอยู่บนพื้นดิน; เธอแน่ใจว่าเหยื่อเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะดับความเกลียดชัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบุคคลที่เป็นสะพานเชื่อมอย่างที่เธอเป็นมารดาที่ได้รับการยอมรับทั้งจากชาวกีวาริและชาวอาณานิคม เธอรับฟังผู้แทนชาวกีวาริที่เข้ามาพร้อมกับหอกและปืนไรเฟิลในมือ: "หากมีใครทำร้ายคุณพ่อซาเลเซียนแม้แต่เพียงรอยขีดข่วนเดียว เราจะลุกขึ้นต่อสู้กับคนผิวขาวทันที" ซิสเตอร์มาเรียเข้าใจพวกเขาดี เธอรู้ว่ามันเป็นเวลาหลายศตวรรษของประวัติศาสตร์ที่มีทั้งความภาคภูมิใจและความดุร้ายในเวลาเดียวกัน ซึ่งไม่อาจลบล้างได้ในพริบตา อย่างไรก็ตาม เธอตระหนักดีว่าพระวาจาของพระเจ้าสามารถชนะและพิชิตความสยดสยองทั้งหมดได้ ตามคำให้การของซิสเตอร์เปียรีนา รุสโคนี "น้ำเสียงสุดท้าย" ของเธอพูดว่า: "หากพวกเธอรักฉันจริง จงวางอาวุธลงที่เท้าของฉัน!" ความเงียบปกคลุมชั่วขณะ จากนั้นหัวหน้ากลุ่มได้ให้สัญญาณแก่คนอื่นๆ: ลูกธนูแห่งพระวรสารไปโดนเป้าหมาย อาวุธทั้งหมดจึงตกลงสู่พื้นดิน เป็นการปลดอาวุธของหัวใจ ในจำนวนวิธีสร้างสันติภาพมากมาย มีวิธีหนึ่งที่สำคัญมาก: "หัวใจของเธอกำลังทวีแรงดึงดูดให้กระทำสิ่งนั้น เธอพูดกับชาวบ้าน”ซูคู”หลายกลุ่มอย่างสงบ: "เพื่อให้สันติกลับคืนมา ฉันจะยอมให้แม้แต่ชีวิตของฉัน" ซิสเตอร์มาเรียรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ของทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยก ในช่วงเวลานั้น เธอคร่ำครวญกับเทเรซา ตันคามาชว่า: "พวกเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่? ต้องการบิหัวใจของฉันเป็นสองท่อนกระนั้นหรือ?" จากนั้นเธอกล่าวซ้ำไปซ้ำมา: "หากต้องการผู้ที่เป็นยัญบูชาจริงๆ ฉันจะขอพระเจ้าให้เป็นตัวฉันเอง" คุณพ่อปาโลมีโนเน้นว่า ธรรมทูตทุกคนมีการมอบถวายอยู่สองแบบ คือ “มอบถวายตนทั้งครบ” ไปสู่ “การมอบถวายเป็นยัญบูชาหรือเป็นมรณสักขี” สำหรับซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี เป็นการมอบทั้งสองอย่าง เพราะไม่เพียงแต่เห็นความสำคัญ แต่ยังรู้สึกเสียงเรียกขั้นสูงสุดของพระเจ้าที่ดังก้องอยู่ภายในใจ ให้เธอถอดแบบของพระเยซูเจ้าเลยทีเดียว เธอเสียชีวิตแต่เพียงผู้เดียวด้วยสาเหตุเครื่องบินเล็ก ๆ ตกกลางป่า ขณะเดินทางไปเข้าเงียบประจำปี
ในงานศพ ทั้งครอบครัวคนผิวขาวและครอบครัวชาวกีวาริต่างแห่แหนกันมาเป็นคลื่นยักษ์ ต่างฝ่ายต่างร้องไห้ให้กับ “มาเดรซิตา” (คุณแม่ที่รัก)
โดยไม่มีการแบ่งแยก มีคนแห่มาจากเมืองมากัสเป็นรถบัสพิเศษหรือรถบรรทุก «นักบุญของเราได้เสียชีวิตแล้ว!» (ivi, 461) «เห็นได้ชัดว่า ทั้ง
ชาวกีวาริและชาวผิวขาว ต่างมีคำถามเกี่ยวกับความตาย และความหมายที่ซ่อนอยู่ลึก ๆเพราะมีคำพูดบางคำ การทำนายบางอย่าง การขอร้องของ
ซิสเตอร์มาเรียที่ได้รั่วไหลออกมา พวกเขาได้ไตร่ตรองเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของการให้อภัย เกี่ยวกับมิตรภาพของมนุษย์ในการยอมรับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีความแตกต่าง ในฐานะบุคคลที่มีศักดิ์ศรี ที่มีความก้าวหน้าในการเป็นประชาชนที่มีสันติภาพ อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้สึกถึงพลัง ความปรารถนา แรงผลักดันให้อนาคตเป็นสิ่งใหม่ทั้งหมด ชายผู้หนึ่งพูดกับบราเดอร์โคซีโม คอสซู: «ฉันจะเริ่มไปวัด ร่วมพิธีมิสซา และรับศีลศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง
ฉันเข้าใจแล้วว่าทั้งหมดนี้หมายถึงอะไร ฉันไม่อยากหูหนวกและตาบอดอีก...» (ivo, 463) ในวันงานศพของซิสเตอร์มาเรีย ตรองกัตตี มีรุ้งกินน้ำที่งดงามปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
คุณพ่อ Shutka กล่าวว่า «รุ้งกินน้ำได้เผยตัวขึ้นในหัวใจด้วย ความเกลียดชัง ความกลัว ความวิตกกังวลของทุกวัน «หายไปอย่างสิ้นเชิง» การมอบชีวิตด้วยความรักสูงสุดของซิสเตอร์มาเรียด้วยความสมัครใจเป็นสิ่ง “จำเป็น” เพื่อชดเชยการคืนดี และเป็นชัยชนะของความดีเหนือสงครามทั้งหมด” แท้จริงแล้ว «ความเข้าใจและสันติภาพ» ที่เกิดขึ้นในวันนั้นระหว่างชาวกีวาริและผู้อพยพ "ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้" เพื่อยืนยันคำกล่าวเหล่านี้ ยังมีพยานหลักฐานอื่นๆ อีกมากมาย
คุณพ่อGabrielli : "หลังจากความตายของซิสเตอร์มาเรีย ประชาชนสงบลง จนพ่อสามารถเริ่มงานอภิบาลได้หลายอย่าง โดยอาศัยความร่วมมือ
ทั้งของชาวกีวาริและชาวอาณานิคม"
การประกาศแต่งตั้งบุญราศรี ซิสเตอร์ตรองกัตตี เป็นนักบุญใกล้เข้ามาแล้ว ขอเชิญชวนผู้อ่านได้ภาวนาโดยอาศัยคำเสนอวิงวอนของท่าน
เพื่อขอพระเจ้าได้โปรดประทานสันติภาพในจิตใจของเราแต่ละคน สันติภาพในครอบครัวในสังคมและในโลกปัจจุบัน
ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระองค์ได้ทรงจุดไฟ
แห่งความรักในดวงใจของซิสเตอร์
มาเรีย ตรองกัตตี ผู้พร้อมสละชีวิตทั้งครบ
เป็นบูชาเพื่อสันติภาพและการคืนดี
อาศัยคำเสนอวิงวอนของท่าน ขอโปรดประทาน
พระพร.......แก่ลูก ในอันที่จะดำเนินชีวิต
ความเชื่อที่เข้มแข็ง ความรักลุกร้อนต่อพระองค์และ
ต่อเพื่อนมนุษย์ ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีพระ
คริสตเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
บุญราดี มาเรีย ตรองกัดดี
ช่วยวิงวอนเทอญ
เรียบเรียงโดย : ซ.อุดม ศรีดารุณศิลป์ FMA